วันที่ 26 กันยายน 2564 เวลา 14:30 น.ผู้เสียหายกว่า 12 คนได้รวมกลุ่มกันมาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับนางสาวพิชญา ท้าวแชร์หมู่ที่ 2 ต.บ้านนา อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ที่หลอกชวนเล่นแชร์เงินออมมีผู้เสียหายหลายรายทั้งที่มาแจ้งความและไม่กล้าที่จะมาแจ้งความบางคนก็อยู่ในเขตจังหวัดปราจีนบุรีและตามต่างจังหวัดไม่สะดวกที่จะมาแจ้งความ วันนี้ก็เลยได้รวมตัวกันมาแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
<script async custom-element="amp-auto-ads"
src="https://cdn.ampproject.org/v0/amp-auto-ads-0.1.js">
</script>
เช่นเดียวกับคุณอ้อ บ้านเขาไม้แก้ว ก็ถูกชักชวนให้ร่วมลงทุนแชร์เงินออมในครั้งนี้ด้วยโดยที่ไม่เคยรู้จักและเห็นหน้ากันมาก่อนรู้จักกันปากต่อปากตนลงทุนไป 45,500 บาทตั้งแต่ลงทุนก็ยังไม่ได้รับเงินดอกเบี้ยเลยสักบาทเลยมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนป้าเพ็ญ ก็เล่าให้ฟังว่าก็ถูกหลอกให้ร่วมลงทุนด้วยแรกๆลงไป 30,000 บาทแล้วก็ลงไปเรื่อยๆจนเป็นแสนเบร็จเสร็จแล้วป้าเพ็ญร่วมลงทุนไป 600,000 กว่าบาท
แต่ละคนแล้วโดนหลอกร่วมลงทุนไปไม่ต่ำกว่าคนละ 100,000-600,000 บาทต่อคน รวมๆแล้วความเสียหายไม่ต่ำกว่า 4,000,000 บาท วันนี้ก็เลยรวมตัวกันมาแจ้งความไว้ที่ สภ.กบินทร์บุรี ต่อ พ.ต.ท.กฤชฐา ประทุมแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.กบินณ์บุรี รับเรื่องแจ้ง 2 ในข้อหา ฉ้อโกงประชาชนและ พรบ.คอมพิวเตอร์ นำข้อมูลอันเป็นเท็จ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยจับตัวผู้ที่หลอกลวงมาดำเนินคดีตามกฏหมาย ซึ่งตามมาตรา 341 ผู้ใดโดยทุจริตหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งและโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สามหรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สามทำถอนหรือทำลายเอกสารสิทธิ์ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกงต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
:นอง บูรพา ทีมข่าวปราจีนบุรีรายงาน