สืบเนื่องจากวันจันทร์ที่ 1 พ.ย. 64 นางตา (นามสมมุติ) แม่ น.ส.บีม (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ได้ติดต่อแจ้งเรื่องร้องทุกข์มายังเพจเฟสบุ๊กมูลนิธิปวีณาฯ เล่าว่า ตนได้อยู่กินกับ นายบัง (นามสมมุติ) มีลูกด้วยกัน 1 คน ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ต่อมาได้แยกทางกัน ตั้งแต่ น.ส.บีม อายุประมาณ 3 ขวบ และตนไม่เคยติดต่อกับ นายบัง อีกเลย จนกระทั่งปี 2560 ลูกเริ่มโต อายุประมาณ 12 ปี นายบัง ติดต่อมาและได้มารับลูกที่บ้านของตนที่อาศัยอยู่ เขตประเวศ กทม. พาไปเที่ยวบ้านที่ จ.ชลบุรี ต่อมาช่วงเดือน พ.ค. 64 นายบัง ได้ไปหาลูกอีกครั้งที่บ้านของตน และได้ขอเบอร์โทรติดต่อและเฟสบุ๊กของลูกสาว และได้ติดต่อกันพูดคุยกันตามประสาพ่อลูกปกติ ต่อมาเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 64 นายบัง ได้มารับลูกสาวไปเที่ยวบ้านปู่ย่าที่ จ.ชลบุรี อ้างงว่าจะพาไปเที่ยวทะเล แต่นายบัง ได้พาลูกสาวไปพักอยู่ที่บ้านเพื่อนย่านรามคำแหง กทม. เสพยากับเพื่อนทั้งคืน ปล่อยให้ลูกสาวอยู่ห้องมืดๆตามลำพังเพียงคนเดียวจนถึงเช้า กระทั่งเช้าของวันที่ 31 ต.ค. 64 จึงพาลูกสาวเดินทางไป จ.ชลบุรี ลูกสาว เล่าว่า คืนวันที่ 31 ต.ค. 64 ถูกนายบัง พ่อแท้ๆ หลอกลูกออกไปข้างนอกเวลประมาณ 23.00 น. อ้างว่าจะพาไปเอาเงินจากเพื่อน เมื่อไปถึงป่าละเมาะข้างทาง นายบัง ได้บีบคอและยัดยาบ้าเข้าปากลูก 2 เม็ด และบังคับให้ น.ส.บีม ถอดเสื้อออกแล้วให้เอาเสื้อปิดตาไว้ นายบัง ได้จูงมือพา น.ส.บีม เดินเข้าไปในป่าและเอ่ยปากว่า พ่อขอมีอะไรด้วย 1 ครั้ง แล้วพ่อจะให้เงิน 1,500 บาท น.ส.บีม ตกใจกลัวมาก ขอร้องพ่อว่าอย่าทำ นายบัง จึงได้ขู่ว่าจะฆ่าหั่นศพไว้ในป่าละเมาะนี้หากไม่ยอม น.ส.บีม ยกมือไหว้ขอชีวิต แต่นายบัง ไม่สนใจ และ น.ส.บีม ได้ยิน นายบัง โทรศัพท์ติดต่อกับเพื่อนมาซื้อบริการเพื่อแลกเงิน 40,000 บาท ให้รีบมามันจะหนีแล้ว จากนั้นนายบังจึงลงมือกระทำการลวนลาม บีบคอ พยายามจะข่มขืน น.ส.บีม ไม่ยอมจึงอาศัยจังหวะที่พ่อกำลังถอดเสื้อผ้าวิ่งหนีออกจากป่าละเมาะไปบอกปู่ ย่า ถูกพ่อลวนลาม ทำร้าย พยายามจะข่มขืน ย่า และอา จึงได้พา น.ส.บีม กลับมาส่งให้แม่เวลาประมาณ 01.30 น. ของวันที่ 1 พ.ย. 64 ต่อมา นางตา จึงได้ติดต่อมาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ เวลา 04.00 น. ทันที
สืบเนื่องจากวันจันทร์ที่ 1 พ.ย. 64 นางตา (นามสมมุติ) แม่ น.ส.บีม (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ได้ติดต่อแจ้งเรื่องร้องทุกข์มายังเพจเฟสบุ๊กมูลนิธิปวีณาฯ เล่าว่า ตนได้อยู่กินกับ นายบัง (นามสมมุติ) มีลูกด้วยกัน 1 คน ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ต่อมาได้แยกทางกัน ตั้งแต่ น.ส.บีม อายุประมาณ 3 ขวบ และตนไม่เคยติดต่อกับ นายบัง อีกเลย จนกระทั่งปี 2560 ลูกเริ่มโต อายุประมาณ 12 ปี นายบัง ติดต่อมาและได้มารับลูกที่บ้านของตนที่อาศัยอยู่ เขตประเวศ กทม. พาไปเที่ยวบ้านที่ จ.ชลบุรี ต่อมาช่วงเดือน พ.ค. 64 นายบัง ได้ไปหาลูกอีกครั้งที่บ้านของตน และได้ขอเบอร์โทรติดต่อและเฟสบุ๊กของลูกสาว และได้ติดต่อกันพูดคุยกันตามประสาพ่อลูกปกติ ต่อมาเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 64 นายบัง ได้มารับลูกสาวไปเที่ยวบ้านปู่ย่าที่ จ.ชลบุรี อ้างงว่าจะพาไปเที่ยวทะเล แต่นายบัง ได้พาลูกสาวไปพักอยู่ที่บ้านเพื่อนย่านรามคำแหง กทม. เสพยากับเพื่อนทั้งคืน ปล่อยให้ลูกสาวอยู่ห้องมืดๆตามลำพังเพียงคนเดียวจนถึงเช้า กระทั่งเช้าของวันที่ 31 ต.ค. 64 จึงพาลูกสาวเดินทางไป จ.ชลบุรี ลูกสาว เล่าว่า คืนวันที่ 31 ต.ค. 64 ถูกนายบัง พ่อแท้ๆ หลอกลูกออกไปข้างนอกเวลประมาณ 23.00 น. อ้างว่าจะพาไปเอาเงินจากเพื่อน เมื่อไปถึงป่าละเมาะข้างทาง นายบัง ได้บีบคอและยัดยาบ้าเข้าปากลูก 2 เม็ด และบังคับให้ น.ส.บีม ถอดเสื้อออกแล้วให้เอาเสื้อปิดตาไว้ นายบัง ได้จูงมือพา น.ส.บีม เดินเข้าไปในป่าและเอ่ยปากว่า พ่อขอมีอะไรด้วย 1 ครั้ง แล้วพ่อจะให้เงิน 1,500 บาท น.ส.บีม ตกใจกลัวมาก ขอร้องพ่อว่าอย่าทำ นายบัง จึงได้ขู่ว่าจะฆ่าหั่นศพไว้ในป่าละเมาะนี้หากไม่ยอม น.ส.บีม ยกมือไหว้ขอชีวิต แต่นายบัง ไม่สนใจ และ น.ส.บีม ได้ยิน นายบัง โทรศัพท์ติดต่อกับเพื่อนมาซื้อบริการเพื่อแลกเงิน 40,000 บาท ให้รีบมามันจะหนีแล้ว จากนั้นนายบังจึงลงมือกระทำการลวนลาม บีบคอ พยายามจะข่มขืน น.ส.บีม ไม่ยอมจึงอาศัยจังหวะที่พ่อกำลังถอดเสื้อผ้าวิ่งหนีออกจากป่าละเมาะไปบอกปู่ ย่า ถูกพ่อลวนลาม ทำร้าย พยายามจะข่มขืน ย่า และอา จึงได้พา น.ส.บีม กลับมาส่งให้แม่เวลาประมาณ 01.30 น. ของวันที่ 1 พ.ย. 64 ต่อมา นางตา จึงได้ติดต่อมาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ เวลา 04.00 น. ทันที