เมื่อวันที่ 27 ม.ค.66 พ.ต.อ.ศตวรรษ บุญมี ผกก.1 บก.ทล.,พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 พ.ต.อ.จิรประภาพ สุทธปรีดา ผกก.ตม.จว.พระนครศรีอยุธยาพ.ต.ท.ธัช โพธิ์สุวรรณ รอง.ผกก.1 บก..ทล.พ.ต.ท.ธนศักดิ์ ปราสาททอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.,ว่าที่ พ.ต.ท.ชนะ ขำทอง สว.ส.ทล.6 กก.1 บก.ทล. ร.ต.อ.วัชรพล วชิรกุลฑล,ร.ต.อ.เอกชัย ขุมเพ็ชร รอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.,ร.ต.ท.ประธาน จตุพันธ์,ร.ต.ท.ไพบูลย์ ชูวงศ์ รอง สว.(ป.) ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.ด.ต.ธนพงศ์ เผ้าหอม,ด.ต.สมชาย แก้วนุช,ด.ต.เกียรติยศ บุญมาลา ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. ได้ร่วมกันจับกุมนายสมศักดิ์ อายุ 24 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 10 ต.โกสัมพี อ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร และพร้อมด้วยแรงงานต่างด้าวชาย-หญิงจำนวน6คน และรถยนต์กระบะยี่สีดำติดแผ่นป้ายทะเบียนหมวด อุทัยธานีจำนวน 1 คัน โดยจับกุมได้ที่ภายในซอยวัดเกาะ หมู่ที่ 1 ต.โรงช้าง อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา
ต่อมาได้จับกุมนายสันติชัย อายุ 26 ปี ที่อยู่ หมู่ที่ 11 ต.เชียงทอง อ.วังเจ้า จ.ตาก พร้อมด้วยรถยนต์กระบะ สีเทาติดแผ่นป้ายทะเบียนหมวดจังหวัดตากจำนวน 1 คัน โดยจับกุมได้ที่บริเวณทล.347 หมู่ที่ 5 ต.เจ้าปลุก อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา

ด้าน พ.ต.ท.ธนศักดิ์ ปราสาททอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. กล่าวว่าสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยา ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่กรุงเทพมหานคร,จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.อ่างทอง จ.ปทุมธานี อยู่บ่อยครั้งและได้รับการประสานจาก กก.สืบสวน ตม.1 และ ตม.จ.อ่างทอง จากนั้น พ.ต.อ.ศตวรรษ บุญมี ผกก.1 บก.ทล.จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน โดยให้ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา)และ ส.ทล.6 กก.1 บก.ทล.(สิงห์บุรี)สืบสวนและเฝ้าระวังในพื้นที่เขตรับผิดชอบ กระทั่งวันนี้(26 มกราคม 2566) เวลาประมาณ 16.30 น.ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สำรวจเส้นทาง บริเวณ ทล.3196 อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา โดยพบรถยนต์ต้องสงสัยขับขี่ติดต่อกันมาและรถยนต์คันดังกล่าว มีน้ำหนักรถยนต์ที่มากกว่าปกติและขับขี่มาด้วยความเร็วและขับขี่หวาดเสียว อาจจะก่อนให้เกิดอันตราย จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงได้ขับติดตามระยะทางรวมประมาณ 3 กิโลเมตร โดยเจ้าหน้าที่ได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด แต่รถยนต์คันดังกล่าว เร่งเครื่องพยายามหลบหนีและใช้ความเร็วสูง ไม่ยอมหยุดจอดให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ จนกระทั่งมาถึง บริเวณ ภายในซอยวัดเกาะ หมู่ที่ 1 ต.โรงช้าง อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยาได้หยุดรถยนต์คันดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบพบนายสมศักดิ์ อายุ 24 ปี เป็นผู้ขับขี่ และพบคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางนั่งมาในรถคันของกลาง โดยผู้ถูกจับนั่งโดยสารมาในห้องโดยสารของรถยนต์คันดังกล่าว จากการสอบถามนายสมศักดิ์ อายุ 24 ปี(ผู้ต้องหา)ให้การยอมรับว่าวันที่ 26 มกราคม 2566 เวลาประมาณ 09.00 น. ได้รับการประสานจาก เพื่อชายไทย(ไม่ทราบชื่อ-นามสกุล) โทรมาให้ไปรับแรงงานต่างด้าว บริเวณริมป่าข้างทางในพื้นที่ อ.วังเจ้า จ.ตาก หลังจากที่รับแรงงานต่างด้าวจำนวน 6 คน นายสมศักดิ์ ได้โทรไปหา นายสันติชัย เพื่อให้ขับรถยนต์ ขับขี่นำทางตั้งแต่ จ.ตาก ไปส่งพื้นที่ปลายทาง ในพื้นที่ กรุงเทพมหานครโดยได้รับค่าจ้างรายละ 2,000 บาท/คนหลังจากที่ได้เงินค่าจ้างแล้วจะแบ่งเงินให้กับนายสันติชัยจำนวน 7,000 บาท

โดยตนรับรู้ดีอยู่แล้วว่าเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง และ ยินยอมที่จะนำไปส่งที่ปลายทาง ส่วนเงินที่ได้จากค่าจ้างนั้นจะนำไปใช้จ่ายต่างๆจากนั้นได้ประสานงานตำรวจ ตม.จ.อ่างทองพร้อมรถตรวจ ให้ช่วยเฝ้าระวัง หากพบเห็นให้เรียกตรวจสอบรถยนต์กระบะ สีเทา ติดแผ่นป้ายทะเบียน ตาก ซึ่ง นายสมศักดิ์ แจ้งว่าเป็นผู้ขับขี่รถยนต์นำทาง จาก จ.ตาก ตลอดเส้นทางจนมาถึงพื้นที่เกิดเหตุ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จ.อ่างทอง ได้พบรถยนต์คันดังกล่าวขับขี่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด พบ นายสันติชัย อายุ 26 ปี เป็นผู้ขับขี่ จึงเชิญตัวมาตรวจสอบและสอบถามที่ สภ.โรงช้าง ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา โดยผู้ต้องหารับว่าเป็นผู้ขับขี่ รถยนต์กระบะ สีเทา ติดแผ่นป้ายทะเบียน ตาก เพื่อนำทางรถยนต์ ติดแผ่นป้ายทะเบียน อุทัยธานี ที่บรรทุกแรงงานต่างด้าวมาจำนวน 6 คน จริง โดยตลอดเส้นทางถ้าเจอด่านตรวจก็จะโทรบอกเพื่อให้หลบ หรือใช้อีกเส้นทางหนึ่ง โดยตนจะได้ค่าจ้างนำทาง จำนวน 7,000 บาท และเมื่อประมาณเดือนสิงหาคม 2565 เคยถูกจับกุมคดีขนแรงงานจำนวน 14 คน ในพื้นที่ จ. ตาก มาก่อน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหาผู้ถูกจับที่ 1ฐาน “ร่วมกันรู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม”จากนั้นได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางมาทำบันทึกการจับที่ สถานีตำรวจภูธรโรงช้าง ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา และนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรโรงช้าง ภ.จว.พระนครศรีอยุธยาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่