เมื่อวันที่ 16 ก.พ.66 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดชผบช.ก พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผบก.รน.,พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ราม รสหอม ผกก.4 บก.รน. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ และเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางร่วมกันจับกุม “แก็งค์แมวน้ำ” หรือ ขบวนการโจรกรรมสินค้าทางน้ำ ซึ่งการปฏิบัติการในครั้งนี้ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 6 ราย เป็นคนไทย 5 ราย และชาวกัมพูชา 1 ราย ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ” ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน หรือรับของโจรโดยใช้ยานพาหนะ ” อีกทั้งยังตรวจยึดของกลางที่ใช้ในการก่อเหตุได้หลายรายการ ดังนี้ 1.ข้าวสารขาว บรรจุอยู่ในกระสอบ จำนวน 188 กระสอบ กระสอบละประมาณ 25 กิโลกรัม รวมประมาณ 4,700 กิโลกรัม หรือ 4.7 ตัน 2.รถยนต์กระบะตู้ทึบ สีขาว จำนวน 2 คัน 3.เรือเล็ก ตัวเรือทำด้วยไม้ พร้อมเครื่องยนต์ติดท้ายแบบหางยาว ไม่ทราบรุ่น และยี่ห้อ จำนวน 2 ลำ ด้าน พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผบก.รน. กล่าวว่าสืบเนื่องจาก “แก็งค์แมวน้ำ” ได้กลับมาใช้เรือออกตระเวนลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในแม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่ จว.สมุทรปราการ ซึ่งทางกองบังคับการตำรวจน้ำ ได้จัดชุดสืบสวนเฉพาะกิจ เฝ้าติดตามและวางแผนจับกุม จนกระทั่งเมื่อวันที่ 15 ก.พ.66 เวลาประมาณ 00.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้พบเห็นเรือเล็กตัวเรือทำด้วยไม้ จำนวน 2 ลำ กำลังขนถ่ายสินค้า (ข้าวสาร) และบริเวณใกล้เคียงได้มีรถยนต์กระบะตู้ทึบจำนวน 2 คันจอดรออยู่บนฝั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจสอบทั้งทางบกและทางเรือ จึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 รายพร้อมของกลางดังกล่าว ส่ง พงส.กก.2 บก.ป เพื่อดำเนินคดีต่อไปซึ่งจากการจับกุมในครั้งนี้ ผู้เสียหายได้ให้การว่า การขนส่งสินค้าทางน้ำ(ข้าวสาร) ดังกล่าว จะขนส่งครั้งละประมาณ 5,000 – 6,000 ตัน และจะมีค่าความเสี่ยงสินค้าเสียหายจากการขนย้าย 20 % ประมาณ 1,000-1,200 ตัน ประมาณ 10-12 ล้านบาทต่อครั้งในการขนส่งสินค้าออกต่างประเทศ ขบวนการแก็งค์แมวน้ำจึงอาศัยช่องทางดังกล่าวทำการโจรกรรมสินค้าทางน้ำ และเนื่องจากคดีลักษณะนี้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของต่างชาติ ในด้านการส่งออกสินค้าสู่ต่างประเทศ ทางกองบังคับการตำรวจน้ำ และ กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จะดำเนินการสืบสวนขยายผล เพื่อติดตามจับกุมผู้จ้างวาน หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรายอื่นต่อไป