เมื่อวันที่ 24 ก.พ.66 พ.ต.อ.ศตวรรษ บุญมี ผกก.1 บก.ทล.พ.ต.ท.อิทธิศักดิ์ ค้ำคูณ สว.ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล.พ.ต.ต.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. ร.ต.ต.กุศล ยะฝั้น รอง สว.(ป.) ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล.ร.ต.อ.เอกชัย ขุมเพ็ชร รอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล., ร.ต.ท.ประธาน จตุพันธ์,ร.ต.ท.ไพบูลย์ ชูวงศ์ รอง สว.(ป) ส.ทล.1 กก.1บก.ทล.ด.ต.ธนพงศ์ เผ้าหอม ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. ได้ร่วมกันจับกุมนายชาตรี อายุ 29 ปี ที่อยู่ หมู่ที่ 6 ต.เชียงทอง อ.วังเจ้า จ.ตาก พร้อมด้วยรถยนต์นั่งสองตอนท้ายบรรทุกสีขาวติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายหมวด พิษณุโลก จำนวน 1 คัน และแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่าชาย-หญิง รวม9 คน จับกุมได้ที่หน้าอบต.หนองผักนากทล.3496 ต.หนองผักนาก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี
ด้าน พ.ต.ต.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. กล่าวว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้รับแจ้งว่ามีคนไทยได้นำรถชนิดต่างๆ เช่น รถกระบะดัดแปลง รถตู้ ลักลอบขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองเป็นจำนวนมากและแรงงานที่จะเข้ามาในประเทศไทยต้องเสียค่านายหน้าคนหนึ่งเป็นจำนวนเงินหลายบาทรายนี้ก็เช่นจึงได้นำกำลังเข้าจับกุมโดยประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจากหลายพื้นที่และก็ได้พบสำรวจเส้นทาง บริเวณ ทล.3496 ต.หนองผักนาก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี โดยพบรถยนต์ต้องสงสัย กระบะสีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลขหมวดพิษณุโลก ขับขี่ผ่านมามีน้ำหนักที่รถยนต์มากว่ารถยนต์ปกติ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุดเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบพร้อมกับได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ เบื้องต้นสอบถามชื่อนายชาตรี อายุ 29 ปี ที่อยู่หมู่ที่ 6 ต.เชียงทอง อ.วังเจ้า จ.ตาก (เป็นผู้ขับขี่) พบคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางนั่งมาในรถคันของกลาง โดยผู้ถูกจับนั่งโดยสารมาในห้องโดยสารของรถยนต์คันดังกล่าว จากการสอบถามนายชาตรี อายุ 29 ปี(ผู้ต้องหา) ให้การยอมรับว่าวันนื้(23 ก.พ.2566) เวลาประมาณ 10:00 น. ได้รับการประสานจาก ชายชาวเมียนม่า (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) โทรมาให้ไปรับแรงงานต่างด้าว ในพื้นที่ อ.วังเจ้า จ.ตาก จำนวน 8 คน เพื่อไปส่งในพื้นที่ปลายทาง ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี โดยได้รับค่าจ้าง 1,700 บาท/คน โดยใช้เส้นทาง จ.ตาก,จ.สุโขทัย,จ.พิษณุโลก,จ.พิจิตร,จ.นครสวรรค์,จ.อุทัยธานี,จ.ชัยนาท,จ.สุพรรณบุรีและรับว่าได้ขับขี่รถยนต์นั่งสองตอนท้ายบรรทุก สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมวดพิษณุโลก บรรทุกแรงงานต่างด้าวทั้งหมด 8 คน มาจริง และตนรู้ดีอยู่แล้วว่าแรงานต่างด้าวทั้ง 8 คน ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆและยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง จนกระทั่งมาถูกตำรวจทางหลวงเรียกตรวจสอบ โดยตนนั้นได้กระทำแบบนี้มาแล้วประมาณ 2 ครั้ง และ สอบถามแรงงานต่างด้าวผ่านล่ามแปลภาษาเมียนมา ให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมา ในพื้นที่ อ.แม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยยังไม่ได้เสียค่าใช้จ่าย เมื่อถึงปลายทาง จะมีญาติของผู้ต้องหาเป็นคนจ่ายเงินให้กับนายหน้าที่นำพาเข้าประเทศไทย ประมาณ 17,000-20,000 บาท/คน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหานายชาตรี อายุ 29 ปี ฐานรู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุมและแจ้งข้อหาแรงงานต่างด้าวฐาน“เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” จากนั้นได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางมาทำบันทึกการจับที่ สถานีตำรวจภูธรสามชุก ภ.จว.สุพรรณบุรี และนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรสามชุก ภ.จว.สุพรรณบุรีดำเนินการตามกฎหมายต่อไป