• เมื่อวันที่ 4 ก.ย.66 พ.ต.อ.ศตวรรษ บุญมี ผกก.1 บก.ทล. ,พ.ต.ท.ธัช โพธิ์สุวรรณ,พ.ต.ท.นาวิน คงสว่าง รอง.ผกก.1 บก.ทล.,พ.ต.ต.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) นำโดย ร.ต.อ.เอกชัย ขุมเพ็ชร รอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.,ร.ต.ท.ประธาน จตุพันธ์,ร.ต.ท.ธีระยุทธ วันโสภา,ร.ต.ท.ไพบูลย์ ชูวงศ์ รอง สว.(ป) ส.ทล.1 กก.1บก.ทล. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยาได้ร่วมกันจับกุม.นายพลวัตร อายุ 43 ปี ชาวบ้าน หมู่ที่ 8 ต.แม่สอง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก (ผู้ขับขี่)รถยนต์นั่งสองตอนท้ายบรรทุก สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน พร้อมแรงงานต่างด้าวชาย-หญิงสัญชาติเมียน จำนวน 6 คน โดยจับกุมได้ที่ บริเวณ กม.17-18 ถนนสายเอเซีย ทล.32 ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
    ด้านพ.ต.ต.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. ได้ให้ข้อมูลว่าสืบเนื่องจาก กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่บ่อยครั้ง พ.ต.อ.ศตวรรษ บุญมี ผกก.1 บก.ทล.จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน โดยให้ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) สืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ จนกระทั้งวันนี้( 4 กันยายน 2566 ) ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สำรวจเส้นทาง บริเวณ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยพบรถยนต์นั่งสองตอนท้ายบรรทุก สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข กรุงเทพมหานคร โดยมีน้ำหนักที่รถยนต์มากว่ารถยนต์ปกติ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียงรวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด จนกระทั่งมาถึง บริเวณ กม.17-18 ถนนสายเอเซีย ทล.32 ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวและขอเข้าตรวจค้น และทราบชื่อคนขับนายพลวัตร อายุ 43 ปีเป็นผู้ขับขี่รถยนต์ดังกล่าว โดยมีแรงงานต่างด้าว นั่งโดยสารมากับรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญรถยนต์มาตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้งที่ หน่วยบริการตำรวจทางหลวงเอเชีย พบว่าเป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง โดยผู้ถูกจับนั่งโดยสารมา จากการสอบถามคนขับรถ ให้การยอมรับว่าตนเองได้รับการประสานจากชายเมียนมา ชื่อ(ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ประสานงานให้ไปรับแรงานต่างด้าวที่ จ.ลำพูน จำนวน 6 คน เพื่อไปส่งในพื้นที่ปลายทางพื้นที่ โรงงานกระดาษนิคมอุตสาหกรรมนวนคร ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยได้รับค่าจ้าง 4,000 บาท/คน และสอบถามแรงงานต่างด้าวทั้งหมดผ่านล่ามแปลภาษาเมียนมาให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมา ในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยเสียค่าใช้จ่ายการเดินทางภายในประเทศไทย จำนวนเงิน 5,000 บาท จึงได้แจ้งข้อหานายพลวัตร “รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” ส่วนแรงงานต่างด้าวทั้งหมด 6 คน“เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”และควบคุมตัวพร้อมของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.