“ปวีณา” บินด่วน!! ลงพื้นที่จ.อุดรธานี พร้อม ดร.ธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) และตำรวจ ปคม. เชิญหน่วยงานด้านสังคมประชุมร่วม โดยมี ผอ.เขตพื้นที่การศึกษามัธยมและประถมศึกษาเขต1 ,2 ,3 ,4 จ.อุดรธานี , ยุติธรรมจังหวัด ,พัฒนาสังคมฯ , หน.บ้านพักเด็กฯ , นายอำเภอ และผู้อำนวยการโรงเรียนในพื้นที่เข้าร่วมประชุมเพื่อหามาตรการป้องกันไม่ให้มีเหตุข่มขืนที่เกิดขึ้นกับนักเรียนอีกต่อไป หลังเกิดกรณีโค้ชฟุตบอล ร่วมกับ อดีตทหารยศพันตรี ผู้สนับสนุนทีมฟุตบอล ล่อลวงเด็กนักเรียนชายอายุ 10-13 ปี จำนวน 7 ราย เข้าทีมฟุตบอลและข่มขืนกระทำชำเรา-ถ่ายคลิป โดยทุกหน่วยงานร่วมบูรณาการสร้างความมั่นใจความปลอดภัยให้ความคุ้มครองผู้ปกครองและเด็ก พร้อมแจ้งให้ผู้เสียหายทราบว่าผู้เสียหายจะได้รับเงินเยียวยา รายละ 55,000 บาท จากกระทรวงยุติธรรม ซึ่งขณะนี้ยังมีเด็กชายที่ถูกกระทำอีกหลายรายยังไม่รู้ว่าจะแจ้งหน่วยงานใด ขอให้ผู้ปกครองและโรงเรียนร่วมกันช่วยเหลือเด็กหากมีผู้เสียหายเพิ่มให้แจ้ง ตำรวจ ปคม. ดำเนินคดีขยายผล ช่วยเหลือเด็กให้ได้รับความเป็นธรรม โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะจับมือกับตำรวจ ปคม. กระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

วันนี้ 6 ม.ค.67 เวลา 10.30 น. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมด้วย ดร.ธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ตำรวจ ปคม. ได้เดินทางไปที่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 2 (สพป.อุดรธานี เขต2) ถ.อุ่มจาน ต.กุมภวาปี อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ประชุมร่วมกับ ยุติธรรมจังหวัด , พ.ต.อ.ศิริมงคล บุญหนุน ผกก.สภ.ประจักษ์ศิลปาคม มอบหมาย พ.ต.ท.วชิรศักดิ์ สายสุทธิ รอง ผกก.ป. สภ.ประจักษ์ศิลปาคม , พัฒนาสังคมฯ , หน.บ้านพักเด็กฯ  ,นายอำเภอประจักษ์ศิลปาคม ,สพป.อุดรธานี เขต 1,2,3,4 , สพม.อุดรธานี และผู้อำนวยการโรงเรียนในพื้นที่ สพป.อุดรธานี เพื่อหามาตรการป้องกันให้เด็กนักเรียนมีความปลอดภัยและได้รับความเป็นธรรม

สรุปขณะนี้มีเด็กชายที่ตกเป็นเหยื่อที่ร้องขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือก่อนหน้านี้ 7 ราย และวันนี้มีเพิ่มมาอีก 1 ราย และมีอีก 1 รายที่ปรากฎอยู่ในคลิป ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างขยายผล รวมมีเด็กผู้เสียหายขณะนี้ทั้งหมด 9 ราย ที่ร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ และต้องการจะดำเนินคดีกับโค้ชฟุตบอลและอดีตทหารยศนายพัน ผู้สนับสนุนทีมฟุตบอล ให้ถึงที่สุด

ด้านน.ส.เอ (นามสมมุติ) แม่ของเด็กชาย 10 ขวบ 1 ใน 8 ของเด็กชายผู้เสียหาย กล่าวว่า ทุกวันนี้พ่อแม่ผู้ปกครองและลูกๆ ทุกคนมีความกังวลใจที่โค้ชฟุตบอล ผู้ต้องหา ได้รับการประกันตัวออกมาและส่งแชทไลน์ไปหาเด็กๆ ถามไถ่มีใครไปแจ้งความบ้าง ทำให้เด็กทุกคนหวาดกลัวเกรงจะไม่ปลอดภัย อย่างนี้จะเรียกว่ายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือไม่ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิกถอนการประกันตัวผู้ต้องหา เพราะทุกคนรู้สึกว่าถูกคุกคามในชีวิตนอกจากนี้ผู้ต้องหายังจัดงานเลี้ยงสังสรรค์เสียงดังแทบทุกวันเหมือนเป็นการเยาะเย้ยไม่มีความเกรงกลัวต่อกฎหมายทำให้ทุกคนอยู่ไม่เป็นสุข และอยากให้เด็กที่ตกเป็นเหยื่อและพ่อแม่ที่ยังไม่กล้าออกมาแจ้งความได้ยอมรับความจริงและออกมาต่อสู้เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้ลูกและครอบครัว อย่าอายเพราะเราเป็นผู้เสียหาย คนที่ทำผิดจะต้องเป็นคนที่ต้องละอายมากกว่า

ขณะที่ครูสาวซึ่งให้การช่วยเหลือเด็กๆและแจ้งเรื่องขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิปวีณาฯ กล่าวว่า หลังมีการจับกุมผู้ต้องหาดำเนินคดีทางญาติของผู้ต้องหาได้มีการโพสต์เฟซบุ๊กในเชิงข่มขู่ เช่น วันพระไม่ได้มีหนเดียว และจะเอาเรื่องคนที่ไปแจ้งความให้ถึงที่สุด ทำให้ผู้อำนวยการโรงเรียนและเพื่อนครูเป็นห่วงสวัสดิภาพไม่ให้ครูเดินทางไปไหนมาไหนคนเดียวหรืออยู่ที่โรงเรียนคนเดียว จึงขอฝากเรื่องนี้ไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย

ด้าน ดร.ธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) หลังทราบเรื่องกรณีครูสาวถูกคุกคามจึงได้สั่งการทันที ให้ครูย้ายมาช่วยราชการที่ สพป.เขต 2 อุดรธานี โดยมีผลทันทีเพื่อเป็นการดูแลความปลอดภัยของบุคลากรครู

นางปวีณา กล่าวว่า วันนี้ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านสังคมมาประชุมบูรณาการร่วมกัน โดยมี ดร.ธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ตำรวจปคม.  เข้ามาขยายผลและดูแลเด็กผู้เสียหายพร้อมทั้งครอบครัวให้ได้รับความเป็นธรรม ทั้งนี้ได้ประสานกับ ยุติธรรมจังหวัด , พัฒนาสังคมฯจังหวัด , บ้านพักเด็กฯ , สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี , นายอำเภอ , พ.ต.อ.ศิริมงคล บุญหนุน ผกก.สภ.ประจักษ์ศิลปาคม มอบหมาย พ.ต.ท.วชิรศักดิ์ สายสุทธิ รอง ผกก.ป. สภ.ประจักษ์ศิลปาคมโดย กระทรวงศึกษา ได้เชิญ ผอ.สพป. ,ผอ.สพม. จ.อุดรธานี และผู้อำนวยการโรงเรียนในพื้นที่มาประชุมร่วมกันเพื่อหามาตรการป้องกันไม่ให้เหตุร้ายเกิดขึ้นกับเด็กอีกต่อไป และสร้างความมั่นใจให้กับเด็กในเรื่องการเรียนการสอนได้อย่างต่อเนื่องโดยนายอำเภอจะเข้าไปดูแลความปลอดภัย กระทรวงยุติธรรมจะช่วยเงินเยียวยาเด็กผู้เสียหายรายละ 55,000 บาท อีกทั้งทางพัฒนาสังคมฯ จะเข้าเยี่ยมบ้านดูแลครอบครัว ขอบคุณ ดร.ธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) และตำรวจ ปคม. และทุกหน่วยงานที่ร่วมกันบูรณาการช่วยเหลือเด็กนักเรียน โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะจับมือกับตำรวจ ปคม. กระทรวงศึกษาธิการ และทุกหน่วยงาน เพื่อดำเนินการติดตามคดีอย่างใกล้ชิดจนถึงที่สุด

รายละเอียดการประชุมมีดังนี้
1.มาตราการป้องกัน
2.ให้ผู้ปกครองและนักเรียนรับทราบข้อเท็จจริง หากมีนักเรียนที่ถูกกระทำเพิ่มเติมให้แจ้งมายังผู้อำนวยการโรงเรียน หรือมูลนิธิปวีณาฯ โทรฯ 098-478-8991, 063-237-7327 เพื่อให้ตำรวจ ปคม.ดำเนินคดีต่อไป
3.สร้างความปลอดภัยให้กับนักเรียนและผู้ปกครอง
4.แจ้งให้ผู้ปกครองทราบกรณีเด็กที่ถูกกระทำจะได้รับเงินเยียวยา รายละประมาณ 55,000 บาท จากกระทรวงยุติธรรม
5.ให้ พมจ. และบ้านพักเด็กฯ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเด็กให้การช่วยเหลือเด็กและครอบครัวเบื้องต้น
6.กรณีผู้กระทำความผิดคุกคามครอบครัวเด็กชายผู้เสียหาย หรือที่เรียกว่า มีพฤติการณ์ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ให้ผู้ปกครองแจ้งมายังตำรวจ ปคม. เพื่อปรึกษาในการยื่นคำร้องถอนการประกันตัวผู้กระทำความผิดต่อศาลต่อไป

รายละเอียดความเป็นมาคดีเด็กนักเรียนชายถูกโค๊ชฟุตบอลและผู้สนับสนุนข่มขืนถ่ายคลิปวิดีโอ
ช่วงเดือนต.ค.66 มูลนิธิปวีณาฯ ได้รับเรื่องร้องทุกข์จากครู โรงเรียนแห่งหนึ่งในจ.อุดรธานี แจ้งว่าเด็กชาย ป.4 คนหนึ่งซึ่งอยู่ในทีมฟุตบอลและรักในการเตะฟุตบอล จู่ๆ ได้นำเสื้อทีมฟุตบอลมาคืน ทำให้ครูแปลกใจมาก เมื่อสอบถามจึงรู้ว่าเด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศ จึงได้พูดคุยกับพ่อแม่เด็กชาย 2 ราย อายุ 10 ขวบเท่ากัน นักเรียนชั้นป.4 ที่อยู่ในทีมฟุตบอลดังกล่าว จึงรู้เรื่องที่เกิดขึ้น และครูได้แจ้งขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิปวีณาฯ ก่อนที่แม่เด็กจะขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ ด้วย แจ้งว่า ลูกชายทั้งสองคนถูกโค้ชฟุตบอล และอดีตทหารยศนายพัน ผู้สนับสนุนทีมฟุตบอล ข่มขืนกระทำชำเราและถ่ายคลิปหลายครั้ง และมีเด็กชายในทีมอีกหลายรายถูกกระทำเช่นกันแต่ไม่กล้าออกมาขอความช่วยเหลือ

จากนั้น นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. พ.ต.อ. ศราวุธ จันต๊ะวงค์ ผกก.3 บก.ปคม. ตำรวจสอบสวนกลาง รวบรวมพยานหลักฐานจนออกหมายจับและจับกุมตัว โค้ชฟุตบอล และอดีตทหารยศนายพัน ผู้สนับสนุนทีมฟุตบอล ได้ในวันที่ 14 ธ.ค.66 พร้อมของกลางคลิปวีดีโอเด็กชายจำนวนมาก สอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพ ตั้งแต่เดือนต.ค.66 มูลนิธิปวีณาฯ ได้รับการร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจากพ่อแม่และเด็กผู้เสียหาย มูลนิธิปวีณาฯ ได้ให้การคุ้มครองความปลอดภัยพ่อแม่ผู้ปกครองและเด็กชายทั้ง 2 ราย และได้พาเด็กไปพบแพทย์เพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจอย่างต่อเนื่องที่โรงพยาบาลตำรวจ หลังมีการจับกุมผู้กระทำผิดทั้ง 2 ราย นางปวีณา ได้พาพ่อแม่ของ 2 เด็กชายไปยื่นเรื่องขอรับเงินเยียวยาที่กรมคุ้มครองสิทธิ กระทรวงยุติธรรม ซึ่งได้รับการพิจารณาช่วยเหลือเงินเยียวยา 55,000 บาท อย่างรวดเร็ว

ต่อมามีพ่อแม่ 5 ครอบครัว พาลูกชายอายุ 10-13 ปี จำนวน 5 คน เข้าขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ แจ้งว่า ถูกโค้ชฟุตบอล และอดีตทหารยศนายพัน ผู้สนับสนุนทีมฟุตบอล ข่มขืน ถ่ายคลิปเช่นกัน มูลนิธิปวีณาฯ จึงให้การช่วยเหลือพาไปแจ้งความกับตำรวจ ปคม. เพิ่มเติม พร้อมตรวจร่างกาย ให้ตำรวจขยายผลดำเนินคดี โดยนางปวีณา และตำรวจ ปคม. จะช่วยเหลือเด็กจนสิ้นสุดกระบวนการยุติธรรม