เมื่อวันที่ 3 พ.ค.67 พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.๑ บก.ทล.,พ.ต.อ.สถิตย์ วิชัยกุล ผกก.ตม.พระนครศรีอยุธยา,พ.ต.ท.ธัช โพธิ์สุวรรณ รอง.ผกก.1 บก.ทล.,พ.ต.ท.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.ร.ต.อ.เอกชัย ขุมเพ็ชร รอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.,ร.ต.อ.เชาวลิต สีดำ รอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.,ร.ต.อ.ประธาน จตุพันธ์ รอง สว.(ป) ส.ทล.1 กก.1บก.ทล.,ด.ต.สมศักดิ์ จันทาทอง,ด.ต.วิชัย ตามสมัย,ด.ต.ยศภัทร อินต๊ะ ผบ.หมู่ ส.ทล.1กก.1บก.ทล.ได้ทำการจับกุม 1.นายวันชัย อายุ 35 ปี คนขับรถ 1.รถยนต์ตู้ สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข หมวด จ. กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน พร้อมด้วยแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนม่าที่หลบหนีเข้าเมืองอัดแน่นอยู่ในรถตู้ชาย-หญิง จำนวน 19 คน โดยจับกุมได้ที่บริเวณ กม.17-18 ถนนปทุมธานี-บางปะหัน ทล.347 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา
ด้าน พ.ต.ท.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. ได้ให้ข้อมูลว่าสืบเนื่องจาก กก.1 บก.ทล.ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่บ่อยครั้ง พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.1 บก.ทล. จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน โดยให้ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.พระนครศรีอยุธย และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปทส. สืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ จนกระทั่งวันนี้( 3 พฤษภาคม 2567 ) เวลาประมาณ 12.10 น.ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สำรวจเส้นทาง โดยพบรถยนต์ตู้ สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียน หมวดกรุงเทพมหานคร ขับขี่ผ่านมาโดยใช้ความเร็วสูงและมีน้ำหนักที่รถยนต์มากกว่ารถยนต์ปกติ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียงรวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด จนกระทั่งมาถึง บริเวณ กม.17-18 ถนนปทุมธานี-บางปะหัน ทล.347 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบเบื้องต้นสอบถามชื่อ นายวันชัย อายุ 35 ปี คนขับรถตู้ และพบว่ามีผู้โดยสารที่เป็นคนต่างด้าวอยู่เต็มคันรถจึงได้เข้าตรวจสอบและขอดูเอกสารหนังสือเดินทาง แต่คนต่างด้าวทั้งหมด19 คนไม่มีหนังสือเดินทางมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง
จากการสอบถามชื่อ นายวันชัย อายุ 35 ปี คนขับรถตู้บอกว่าได้รับการว่าจ้างจากคนไทยไม่ทราบชื่อให้ไปรับแรงงานต่างด้าวจำนวน 19 คน ที่บริเวณ อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์ เพื่อไปส่งปลายทางที่ จ.ฉะเชิงเทรา โดยได้ค่าจ้าง 19,000 บาทต่อครั้งจนกระทั่งมาถูกตำรวจทางหลวงเรียกตรวจสอบ โดยตนนั้นได้กระทำแบบนี้มาแล้ว 5-6 ครั้ง เงินค่าจ้างที่ได้มาจะนำไปเที่ยวและใช้จ่ายต่างๆและ สอบถามผู้ถามแรงงานต่างด้าวผ่านล่ามแปลภาษาเมียนมาให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมา ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยเสียค่าใช้จ่าย จำนวน 15,000 – 25,000 บาท จึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนสภ.บางปะอินเพื่อดำเนินคดีต่อไป