เมื่อวันที่ 9 มี.ค.66 พ.ต.อ.ศตวรรษ บุญมี ผกก. บก.ทล. 1พ.ต.ท.ธัช โพธิ์สุวรรณ,พ.ต.ท.นาวิน คงสว่าง รอง.ผกก.1 บก.ทล.,พ.ต.ท.อังกูร ทวีเกตุ รอง ผกก สืบสวน สภ สามโคก พ.ต.ต.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.ร.ต.อ.เอกชัย ขุมเพ็ชร รอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.ร.ต.ท.ประธาน จตุพันธ์ ร.ต.ท.ไพบูลย์ ชูวงศ์ร.ต.ต.ณัชพล ศรีอ่ำ รอง สว.(ป) ส.ทล.1 กก.1บก.ทล.ด.ต.ธนพงศ์ เผ้าหอม ด.ต.สมชาย แก้วนุช ด.ต.วิชัย ศรีสมัย ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดปทุมธานีได้ร่วมกันจับกุมนายชาญวิทย์ อายุ 45 ปี ชาวบ้านหมู่ 12 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมของกลางรถยนต์โดยสารประจำทาง สีขาวติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข หมวดจังหวัดกรุงเทพมหานคร วิ่งรับ-ส่งผู้โดยสารภายในชื่อดังแถวงามวงศ์วาน-อำเภอไทรน้อย และคนงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาชายหญิงจำนวน 18 คน โดยจับกุมได้ที่บริเวณ กม.11-12 ทล.347 ถนนปทุมธานี-บางปะหัน ต.เชียงรากน้อย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี
ด้าน พ.ต.ต.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้รับแจ้งว่ามีคนไทยได้นำรถชนิดต่างๆ เช่น รถกระบะดัดแปลง รถตู้ ลักลอบขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองเป็นจำนวนมากและแรงงานที่จะเข้ามาในประเทศไทยต้องเสียค่านายหน้าคนหนึ่งเป็นจำนวนเงินหลายหมื่นบาท ส่วนรายนี้ก็เช่นจึงได้นำกำลังเข้าจับกุมโดยประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจากหลายพื้นที่และก็ได้พบสำรวจเส้นทางพบรถยนต์โดยสารประจำทาง ยี่ห้อหนึ่งสีขาว,ชมพู,ม่วง ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลขหมวด กรุงเทพมหานคร ขับขี่ผ่านมามีน้ำหนักที่รถยนต์มากว่ารถยนต์ปกติ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุดเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบพร้อมกับได้แสดงความบริสุทธิ์ใจจนเป็นที่พอใจแล้ว เบื้องต้นสอบถามนายชาญวิทย์ อายุ 45 ปี (เป็นผู้ขับขี่) และพบคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางนั่งมาในรถคันของกลาง โดยผู้ถูกจับนั่งโดยสารมาในห้องโดยสารของรถยนต์ตู้คันดังกล่าวและไม่มีเอกสารแทนหนังสือเดินทางมาแสดงกับเจ้าหน้าที่ จากการสอบถามนายชาตรี อายุ 29 ปี(ผู้ต้องหา) ให้การยอมรับว่าวันนี้(9 มีนาคม2566) เวลาประมาณ 11:00 น. ได้รับการประสานจาก ชายไทย(ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) และ ไลน์ประสานงานให้ไปรับคนงานต่างด้าวที่บริเวณ ถนนสายเอเซีย ทล.32 อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยจะมีรถยนต์กระบะ จำนวน 2 คันมาส่งให้กับตน และเพื่อไปส่งในพื้นที่ปลายทาง ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี และ จ.นนทบุรี โดยได้รับค่าจ้าง 500 บาท/คน และรับว่าได้ขับขี่รถยนต์โดยสารประจำทาง สีขาว,ชมพู,ม่วง ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข หมวดกรุงเทพมหานคร บรรทุกแรงงานต่างด้าวทั้งหมด 18 คน มาจริง และตนรู้ดีอยู่แล้วว่าแรงานต่างด้าวทั้ง 18 คน ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆและยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง จนกระทั่งมาถูกตำรวจทางหลวงเรียกตรวจสอบ โดยตนนั้นได้กระทำแบบนี้มาแล้วประมาณ 3 ครั้ง และ สอบถามแรงงานต่างด้าว ให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมา ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยยังไม่ได้เสียค่าใช้จ่าย เมื่อถึงปลายทาง จะมีญาติของผู้ต้องหา เป็นคนจ่ายเงินให้กับนายหน้าที่นำพาเข้าประเทศไทย ประมาณ 15,000 บาท/คน เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อหานายชาญวิทย์ อายุ 45 ปี (เป็นผู้ขับขี่) ฐาน “รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุมและแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา“เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” จากนั้นได้ควบคุมตัว พร้อมของกลางมาทำบันทึกการจับกุมที่ สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจทางหลวง และนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรสามโคก จ.ปทุมธานี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป