วันที่ 12 มี.ค.66 รพ.วิมุต ดูแลรักษาอย่างดี สาวถูกสามีสาดน้ำร้อนใส่หน้าและตามตัว ทำร้ายร่างกาย ล่าสุดอาการดีขึ้นแล้ว ขอบคุณ มูลนิธิปวีณาฯ รพ.วิมุต และผกก.สภ.บ้านโป่ง ออกหมายจับ และจับกุมสามีโหดมาดำเนินคดี จากนี้ไม่ต้องอยู่อย่างหวาดผวาอีกแล้วความคืบหน้ากรณี น.ส.หนึ่ง (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี หญิงสาวโชคร้าย ถูกนายเอ้ (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี สามีชาวจ.ราชบุรี มีพฤติกรรมเสพยาเสพติด อยู่กินกันมากว่า 8 ปี ทำร้ายร่างกายเป็นประจำ กระทั่งวันที่ 27 ก.พ.66 นายเอ้ กล่าวหาว่าน.ส.หนึ่งโยนกุญแจบ้านทิ้ง แต่ฝ่ายหญิงปฏิเสธไม่ได้ทำจนเกิดมีปากเสียงรุนแรง นายเอ้ได้ต้มน้ำร้อนมาราดที่ใบหน้าและตามตัวน.ส.หนึ่งจนเป็นแผลผุพองพร้อมกักขังให้อยู่ในกระต๊อบ จนวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา นายเอ้ออกไปนอกบ้าน น.ส.หนึ่งจึงรีบหนีออกมาหายายที่อาศัยอยู่ย่านรามคำแหง กรุงเทพฯค่ำวันที่ 1 มี.ค. สองยายหลานได้เจอตำรวจป้อมยามให้เบอร์โทรติดต่อมูลนิธิปวีณาฯ และให้เงิน 40 บาท ซึ่งทั้งสองเห็นว่ามืดค่ำแล้วจึงพากันกลับบ้านก่อน ช่วงสายวันที่ 2 มี.ค. ยายกับน.ส.หนึ่งได้ไปพบพลเมืองดีที่สำนักงานเขตสวนหลวง ขอให้ช่วยติดต่อมูลนิธิปวีณาฯ เมื่อมูลนิธิปวีณาฯ รับเรื่อง ได้ส่งเจ้าหน้าที่ขับรถไปรับเข้าร้องทุกข์ให้ข้อมูลที่มูลนิธิปวีณาฯ ก่อนจะประสานรพ.วิมุต ช่วยรับตัวน.ส.หนึ่งเข้ารับการผ่าตัดวางยาสลบทันที เพื่อทำการลอกแผลที่ถูกน้ำร้อนลวกตามใบหน้า แขน และลำตัวเพื่อป้องกันการติดเชื้อ โดยรพ.วิมุต ให้การดูแลน.ส.หนึ่ง เป็นอย่างดีและทำการล้างแผลให้ทุกวันวันที่ 10 มี.ค.66 ยายและน.ส.หนึ่ง รู้ข่าวว่านายเอ้ พยายามออกตามหาตัวจึงเกรงว่าจะถูกฆ่าและเป็นอันตราย นอกจากนี้นายเอ้ ยังได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กร่ายยาวถึง 4 หน้ากระดาษ ทำนองตัดพ้อขอโทษน.ส.หนึ่งและยอมรับกับสิ่งที่ทำลงไป ด้านเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ จึงได้พายายไปแจ้งความกับ พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ วงค์เกตุใจ ผกก.สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี