1.จ.ฉะเชิงเทรา เด็กหญิง 13 ปี ถูกกลุ่มนักเรียนชายจับหน้าอก จับล็อกมือสองข้างขึงพืดล้วงจับอวัยวะเพศเด็กผู้หญิงในห้องเรียน และถูกเพื่อนๆ บูลลี่จนไม่กล้าไปโรงเรียน แม่บอกว่าแจ้งฝ่ายปกครองแล้วแต่ครูยังไม่ดำเนินการอะไร และเช้านี้แม่เล่าว่าครูโทรมาต่อว่าแม่ บอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่น่าทำเป็นเรื่องใหญ่ และอ้างว่าเป็นเพียงการละเล่นของเด็กเท่านั้น แม่ขอให้ช่วยย้ายโรงเรียนเพราะเกรงว่าลูกจะไม่ปลอดภัย และขอให้ตรวจสอบเหตุที่เกิดขึ้นเพื่อหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก

2.จ.สงขลา นักเรียนหญิงวัย 13 ปี ชั้นม.2 ถูกนักเรียนชายรุ่นพี่ม.3 ล่อลวงไปมีเพศสัมพันธ์ในห้องน้ำโรงเรียน โดยแม่ได้แจ้งความไว้แล้ว นอกจากนี้ลูกยังถูกกลุ่มเพื่อนนักเรียนหญิงทำร้ายร่างกายและถ่ายคลิปไว้ เหตุเกิดในห้องน้ำโรงเรียนเช่นเดียวกัน แม่ขอให้ย้ายโรงเรียนเพราะเกรงว่าลูกจะไม่ปลอดภัย และขอให้ตรวจสอบเหตุที่เกิดขึ้นเพื่อหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก

3.พลเมืองดีแจ้งเด็กหญิงสองพี่น้อง อายุ 12 ปี กับ 6 ขวบ ถูกพ่อเลี้ยงติดยาเสพติดและเพิ่งพ้นโทษคดีพยายามฆ่าภรรยาเก่าข่มขืนกระทำชำเรา ไม่ให้ไปเรียนหนังสือ และพี่สาวอายุ 12 ปี ยังถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายร่างกายจนฟันหัก 2 ซี่ ซึ่งที่ผ่านมาแม่รับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นแต่ไม่สามารถช่วยลูกทั้งสองได้เพราะแม่เองก็ถูกทำร้ายร่างกายเป็นประจำ พ่อเลี้ยงมักจะพูดว่า ลูกเลี้ยงอายุ 12 ปี คือ “เมียกู” จนชาวบ้านรู้กันทั่ว ต้องการให้มูลนิธิปวีณาฯ เข้ามาช่วยเหลือด่วน

วันที่ 19 ม.ค.67 เวลา 10.00 น. ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี “ปวีณา” ประสาน ดร.ธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) มอบหมายให้ ดร.ตฤณ ก้านดอกไม้ ผอ.ศูนย์ความปลอดภัย สพฐ. เดินทางมารับเรื่องทันที พร้อมประชุมด่วนกรณีทั้ง 3 เคส หารือแนวทางช่วยเหลือเด็กหญิง ตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อปรับพฤติกรรมกลุ่มนักเรียนชาย และหามาตรการป้องกันไม่ให้กรณีแบบนี้เกิดขึ้นอีก

เรื่องที่ 1. จ.ฉะเชิงเทรา แม่พาลูกสาว ม.2 ร้อง “ปวีณา” ลูกถูกกลุ่มนักเรียนชาย 3 คน เพื่อนร่วมชั้นเรียนอนาจาร จับหน้าอก จับก้น ล้วงจับอวัยวะเพศ ตั้งแต่ม.1 เรื่อยมา ที่ผ่านมาเด็กหญิงไม่กล้าปริปากฟ้องครูหรือบอกแม่ กลุ่มนักเรียนชายได้ใจไม่หยุดพฤติกรรม จนเด็กหญิงไม่กล้าไปโรงเรียน กลัวถูกเพื่อนรังแก บูลลี่ ขณะที่เพื่อนๆ เห็นเหตุการณ์แต่ไม่มีใครช่วย แม่แจ้งครูฝ่ายปกครองดำเนินการกับกลุ่มนักเรียนชายแต่เรื่องกับเงียบหาย “ปวีณา” ประสาน ดร.ตฤณ ก้านดอกไม้ ผอ.ศูนย์ความปลอดภัย สพฐ. เดินทางมารับเรื่องทันที พร้อมประชุมหารือแนวทางช่วยเหลือเด็กหญิง ตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อปรับพฤติกรรมกลุ่มนักเรียนชาย และหามาตรการป้องกันไม่ให้กรณีแบบนี้เกิดขึ้นอีก

เรื่องที่ 2. จ.สงขลา แม่เลี้ยงเดี่ยวร้อง “ปวีณา” ลูกสาว อายุ 13 ปี นักเรียนชั้นม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งในจ.สงขลา ถูกนักเรียนชายรุ่นพี่ม.3 อายุ 15 ปี ล่อลวงไปข่มขืนกระทำชำเราในห้องน้ำของโรงเรียน และมีการถ่ายคลิปส่งให้กันในกลุ่มนักเรียน นอกจากนี้ลูกสาวยังถูกกลุ่มเพื่อนนักเรียนหญิงทำร้ายร่างกายและมีการถ่ายคลิป สาเหตุจากไม่พอใจที่ลูกสาวไม่ยอมเสียบปลั๊กที่หนีบผมให้เพื่อนและรุมทำร้ายภายในห้องน้ำโรงเรียน

ซึ่งกรณีรุ่นพี่ข่มขืนกระทำชำเราภายในห้องน้ำโรงเรียนแม่มีการแจ้งความแล้ว และมีความประสงค์ขอช่วยย้ายโรงเรียนให้ลูก นางปวีณา ประสาน กระทรวงศึกษาธิการให้การช่วยเหลือ และหามาตรการไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก

เรื่องที่ 3. พลเมืองดีแจ้ง “ปวีณา” ด.ญ.อายุ 12 ปี ไม่ได้เรียนหนังสือ ถูกพ่อเลี้ยงอายุ 50 ปี ที่เพิ่งพ้นโทษออกจากคุกในคดีพยายามฆ่าภรรยาเก่า เมาสุราข่มขืนกระทำชำเรามานานเกือบปี เมื่อ 2 เดือนก่อนเด็กถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายจนฟันหัก 2 ซี่ แม่แท้ๆ ที่อยู่ด้วยกันทราบเรื่องแต่ไม่สามารถช่วยเหลือลูกได้เพราะตัวเองก็ถูกทำร้ายเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีลูกสาวคนเล็ก อายุ 6 ขวบ อีกคนที่คาดว่าจะถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนกระทำด้วย เหตุเกิดในพื้นที่จังหวัดแห่งหนึ่งของภาคกลาง “ปวีณา” เร่งหาทางช่วยเหลือเด็กให้พ้นขุมนรก ฟื้นฟูสภาพจิตใจ และประสานกระทรวงศึกษาธิการให้เด็กได้เรียนหนังสือต่อไป

นางปวีณา กล่าวว่า ฝาก ดร.ตฤณ ก้านดอกไม้ ผอ.ศูนย์ความปลอดภัย สพฐ. ไปยัง สพฐ. กระทรวงศึกษาธิการ ให้เร่งกำชับให้มีนโยบายชัดเจนนำไปสู่การเรียนการสอนดังนี้ 1. เรื่องจริยธรรม ให้เด็กได้รู้จักเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ทั้งเพศชายและเพศหญิง คือเพศพ่อและเพศแม่ ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน 2. เรื่องกฎหมาย ควรให้เด็กรู้จักเคารพกฎหมาย และได้รู้กฎหมายที่สำคัญๆ ที่เกี่ยวข้องกับเด็ก หากกระทำความผิดจะได้รับโทษ แม้เด็กจะอายุน้อย เข้าสถานพินิจก็จะเป็นประวัติติดตัวต่อไป 3. โรงเรียนต้องมีมาตรการเข้มงวดให้ความปลอดภัยกับนักเรียน ควรมีกล้องวงจรปิดให้ครบถ้วนในสถานที่สำคัญ เช่น ห้องน้ำ ห้องเรียน สถานที่เปลี่ยว และต้องมีเวรยามเฝ้าดูช่วงเวลาที่น่าห่วง คือ ช่วงเช้าก่อนเข้าเรียน ช่วงพักกลางวัน และช่วงหลังเลิกเรียนโดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามเรื่องการให้ความช่วยเหลือร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการอย่างต่อเนื่องต่อไป

ด้าน ดร.ตฤณ ก้านดอกไม้ ผอ.ศูนย์ความปลอดภัย สพฐ. กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ โดย พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ท่านได้มีนโยบายให้นักเรียน เรียนดี มีความสุข และการที่นักเรียนจะเรียนดี มีความสุขได้ ต้องเกิดความปลอดภัยก่อน ขณะที่ ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) และ ดร.ธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ก็ได้เน้นย้ำในเรื่องความปลอดภัยของนักเรียนมาโดยตลอด ให้เด็กมีความปลอดภัยในโรงเรียน ขอให้พ่อแม่มั่นใจใน สพฐ. ในการตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นจะเร่งดำเนินการจากข้อมูลทั้งหมด ทั้งในเรื่องการประสานงานกับเขตพื้นที่การศึกษาฯ จะตรวจสอบช่วยเหลือเร่งด่วนที่สุด อยากให้มั่นใจมูลนิธิปวีณาฯ และ สพฐ. จะให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่