เมื่อวันที่ 6 ก.พ.67 พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.๑ บก.ทล.,พ.ต.ท.ธัช โพธิ์สุวรรณ รอง.ผกก.1 บก.ทล.,พ.ต.ท.นาวิน คงสว่าง รอง.ผกก.1 บก.ทล.,พ.ต.ท.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. สั่งการร.ต.อ.เอกชัย ขุมเพ็ชร,ร.ต.อ.เชาวลิต สีดำ รอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.,ร.ต.อ.ประธาน จตุพันธ์ รอง สว.(ป) ส.ทล.1 กก.1บก.ทล ได้ร่วมกันจับกุมนายสุพรรณรัตน์ อายุ 50 ปี ชาวบ้าน หมู่ที่ 2 ต.หนองหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี (ผู้ขับขี่)รถยนต์เก๋ง สีเทา ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข หมวด กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยแรงงานต่างด้าวชาย-หญิงสัญชาติเมียนม่าจำนวน3 คน โดยจับกุมได้ที่บริเวณ กม.14-15 ทล.340 ถนนบางบัวทอง-สุพรรณบุรี ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี

ด้านพ.ต.ท.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. ได้ให้ข้อมูลว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง กก.1 บก.ทล.ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ปทุมธานี อยู่บ่อยครั้ง พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.1 บก.ทล.จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน โดยให้ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) สืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ จนกระทั่งวันนี้( 5 กุมภาพันธ์ 2567 ) ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สำรวจเส้นทาง โดยพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ดั่งกล่าว ขับขี่ผ่านมาโดยใช้ความเร็ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียงรวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์ให้หยุด แต่ไม่ยอมหยุด เจ้าหน้าที่ตำรวจขับติดตามมาและได้เห็นสัญญาณไฟรวมถึงเสียงคำสั่งเจ้าหน้าที่สั่งให้หยุดรถ จนมาถึง บริเวณ กม.14-15 ทล.340 ถนนบางบัวทอง-สุพรรณบุรี ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบ จากการสอบถามเบื้องต้นชื่อนายสุพรรณ อายุ 50 ปี เป็นผู้ขับขี่ และมีคนงานต่างด้าวนั่งมาในรถด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญรถยนต์คันดังกล่าวมาตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้งที่ สถานีตำรวจภูธรลาดหลุมแก้ว ภ.จว.ปทุมธานี พบว่าคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง ด้านนายสุพรรณรัตน์ อายุ 50 ปี เป็นผู้ขับขี่ (รับสารภาพว่า)ตนเองได้รับการติดต่อ ให้รับคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาจำนวน 3 คน จากจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อไปส่งปลายทางที่จังหวัด นนทบุรี โดยได้ค่าจ้าง 2,000 บาท/คน รวมทั้งหมด 6,000 บาท

 

จนกระทั่งมาถูกตำรวจทางหลวงเรียกตรวจสอบ จากการสอบถามคนงานต่างด้าวผ่านล่ามแปลภาษาเมียนมาให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมา ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยเสียค่าใช้จ่าย จำนวนประมาณ 16,000 – 20,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา ผู้ถูกจับที่ 1 “รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม ส่วนแรงงานต่างด้าวถูกแจ้งข้อหาเป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”และควบคุมตัวพร้อมของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรลาดหลุมแก้ว ภ.จว.ปทุมธานี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงยังให้ข้อมูลอีกว่านายสุพรรณรัตน์ได้ข้อมูลเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจับมา3 ครั้งแล้วข้อหาขนแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศและได้ประกันตัวออกไปจากนั้นก็กลับมาทำความผิดแบบเดิมอีก